พ.ศ.2480 - 2492 ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าได้มีการจัดตั้งห้องสมุดขึ้นหรือไม่
พ.ศ.2506 ได้ปรากฏหลักฐานการจัดตั้งห้องสมุดขึ้น (ข้อมูลได้จากการสัมภาษณ์ครูอาวุโส) ในช่วงนี้ห้องสมุดจะมีลักษณะเป็นห้องเก็บหนังสือ ไม่เน้นด้านการบริการดังเช่นปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ชั้นล่างอาคารหอพัก (ปัจจุบันเป็นอาคาร 4) เป็นห้องขนาด 6 x 9 เมตร มีหนังสือประมาณ 400 - 500 เล่ม หนังสือด้านอุตสาหกรรมมีน้อยมาก
พ.ศ. 2514 ห้องสมุดได้ย้ายมาอาคารเรือนไม้ซึ่งเป็นอาคารเรียนเดิม (ปัจจุบันรื้อถอนไปแล้วและได้สร้างเป็นอาคาร 1) มีขนาด 2 ห้องเรียน
พ.ศ. 2525 ห้องสมุดได้ย้ายจากอาคารเรือนไม้มาอยู่ชั้น 1 ซีกขวาของอาคารแผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ในขณะนั้น เป็นห้องขาด 3 ห้องเรียน มีหนังสือประมาณ 4000 เล่ม
พ.ศ. 2531 ห้องสมุดย้ายมาอยู่อาคารใหม่ชั้น 4 ตัวอาคารมีเนื้อที่ 900 ตารางเมตร จุผู้ใช้บริการได้ประมาณ 280 คน
พ.ศ. 2535 เนื้อที่ห้องสมุดถูกแบ่งออกจากเดิม 900 ตารางเมตร เหลือ 450 ตารางเมตร เพื่อใช้เนื้อที่ดังกล่าวเป็นห้องปฏิบัติการนิวแมติกส์, ไฟฟ้ารถยนต์และปฏิบัติการงานวัดละเอียด
พ.ศ. 2536 ได้รับคำสั่งที่ 150/2536 เรื่องให้ระงับการใช้อาคาร 4 ชั้นที่ชำรุด จึงทำให้ห้องสมุดต้องย้ายไปตั้งสำนักงานชั่วคราวที่ห้องวิทยาศาสตร์ 3 (ชั้น 3 อาคารเขียนแบบ-สำรวจ) ไปพลางก่อน
พ.ศ. 2537 ห้องสมุดย้ายจากห้องวิทยาศาสตร์ 3 มาไว้ที่ห้องประชุมวิทยาลัยฯ (ชั้น 1 อาคารเขียนแบบ-สำรวจ)
พ.ศ. 2538 ห้องสมุดได้ย้ายมาที่อาคาร 4 ชั้น (อาคาร 3) ตรงข้ามกับอาคารอำนวยการหลังเดิม มีขนาด 3 ห้องเรียน มีเนื้อที่ทั้งหมด 270 ตารางเมตร จุผู้ใช้บริการได้ 100 คน
พ.ศ. 2544 ได้รับจัดสรรครุภัณฑ์สำหรับห้องสมุดเทคโนโลยี 1 ชุด
พ.ศ. 2547 ห้องสมุดได้ย้ายมาอยู่ที่ชั้น 2 อาคารตึกห้องประชุมของวิทยาลัยฯ มีขนาด 6 ห้องเรียน โดยแบ่งเป็น 2 ห้อง ส่วนแรกคือห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งรวบรวมหนังสือ ตำราเรียนและตำราวิชาการต่างๆ ส่วนที่สองคือห้องสมุดสารสนเทศ ประกอบด้วยห้อง Digital Library และห้อง Home Theatre นอกจากนี้ยังเก็บรวบรวมวารสาร หนังสืออ้างอิง หนังสือภาษาอังกฤษและกฤตภาคสำหรับการค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตนเองและเพื่อความ บันเทิง นอกจากนี้ยังได้พัฒนาปรับปรุงทั้งโครงสร้าง ระบบงานและรูปแบบการจัดตกแต่งให้มีความทันสมัย ทั้งระบบงานด้าน IT ปรับปรุงรูปแบบการบริการเพื่อให้เป็นระบบอัตโนมัติในการสืบค้น ยืมคืน ให้มีความทันสมัยมากขึ้น มีการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและเครื่องลูกข่ายเพื่อให้บริการสืบ ค้นข้อมูล ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และบริการด้าน Home Theatre เพื่อความเพลิดเพลิน
พ.ศ. 2548 งานห้องสมุดได้จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาให้บริการรวมทั้งสิ้น 25 เครื่อง โดยแยกเป็นเครื่องที่ทำหน้าที่แม่ข่าย 1 เครื่องและเครื่องลูกข่ายติดตั้งในห้อง Digital Library 19 เครื่อง อีก 5 เครื่องใช้ในงานสืบค้น ยืมคืนและงานธุรการ
พ.ศ. 2549 ริเริ่มการจัดทำเว็บไซต์ห้องสมุดดิจิทัลและปรับปรุงระบบสืบค้น ยืมคืน
พ.ศ. 2550 ได้รับจัดสรรเครื่อง Server IBM 1 ชุดสำหรับให้บริการมัลติมีเดีย และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4 เครื่องทำหน้าที่สืบค้นข้อมูล, ปรับปรุงระบบไฟฟ้าและระบบเครือข่ายในห้อง digital library
พ.ศ. 2551 ได้รับจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลยี่ห้อ Acer 12 เครื่อง ติดตั้งในห้อง Digital Library เพื่อบริการนักศึกษาเพิ่มอีก 10 เครื่อง (รวม 29 เครื่อง) และใช้เป็น Server สำรอง 2 เครื่อง, นำระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ULIBM มาให้บริการ
พ.ศ. 2552 นายสุนทร นิศากร ทำหน้าที่หัวหน้างานวิทยบริการและห้องสมุด ปรับปรุงระบบควบคุมไฟฟ้า ที่ห้อง Digital Library, ติดม่านกรองแสงและพัดลมดูดอากาศจำนวน 4 ตัวในห้อง Digital Library และ Home Theatre (ห้องละ 2 ตัว) ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ 2 ตัว ในห้องสมุดสารสนเทศ, ปรับปรุงห้องเก็บของบริเวณชั้น 3 อาคารห้องสมุดเป็นห้อง Server ของงานห้องสมุดโดยเฉพาะ, จัดซื้อครุภัณฑ์โต๊ะอ่านหนังสือพร้อมเก้าอี้จำนวน 2 ชุดและพริ้นเตอร์ Canon mp145 All in One ไว้บริการในห้องสมุดสารสนเทศ, จัดซื้อเก้าอี้นั่งอ่านหนังสือจำนวน 100 ตัวและติดตั้งพัดลมดูดอากาศ 3 ตัว ในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ
พ.ศ. 2553 ในภาคเรียนที่ 2/2552 ได้รับจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการหนังสือเรียนฟรี 15 ปี จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ 19 เครื่องติดตั้งในห้อง digital library ทดแทนเครื่องคอมพิวเตอร์เดิม (คอมพิวเตอร์ชุดเดิม มอบให้แผนกวิชาช่างเขียนแบบ 10 ชุด และจัดให้ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มวิชาช่างก่อสร้างอีก 9 ชุด) ติดตั้งกล้องวงจรปิด 1 ชุด (ประกอบด้วยเครื่องบันทึก 1 ตัว กล้อง CCTV 8 ตัว โดยติดตั้งกล้อง CCTV ในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 4 ตัว และห้องสมุดสารสนเทศ 4 ตัว) โปรเจคเตอร์พร้อมจอแขวนขนาด 70 นิ้ว 2 ชุด (ติดตั้งในห้อง digital library และห้อง Home Theatre), wireless Presentation Gateway 2 ตัว, เครื่องสำรองไฟขนาด 1000 VA (UPS) 2 เครื่อง, Barcode Reader 2 ตัว, คอมพิวเตอร์ Notebook 1 เครื่อง, กล้องดิจิตอล 1 ตัว, เก้าอี้สตูล 16 ตัว
พ.ศ. 2554 ได้รับจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการหนังสือเรียนฟรี 15 ปี จัดทำตู้เก็บ CD 2 ตู้ (ในห้องสมุดสารสนเทศ) และตู้เก็บหนังสืออ้างอิง 1 ตู้ (ในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ)
พ.ศ. 2555 ได้รับจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการหนังสือเรียนฟรี 15 ปี จัดซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม 1 ชุด (ประกอบด้วยเครื่องบันทึก 1 ตัว กล้องอินฟราเรด CCTV 8 ตัว โดยติดตั้งกล้อง CCTV ในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 4 ตัว ห้องสมุดสารสนเทศ 3 ตัวและหน้าห้องสมุด 1 ตัว) , จอ LCD ยี่ห้อ Toshiba ขนาด 32 นิ้ว 2 เครื่อง (ติดตั้งในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติและห้องสมุดสารสนเทศ ห้องละ 1 เครื่อง)
พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการหนังสือเรียนฟรี 15 ปี จัดซื้อเครื่อง Tablet Samsung ขนาด 10 นิ้ว จำนวน 20 เครื่อง (ในห้องสมุดสารสนเทศ), Laser Printer ยี่ห้อ HP LaserJet M1536dnf 1 เครื่อง (ในห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ)
พ.ศ. 2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณจัดซื้อเครื่อง Server 1 เครื่องสำหรับระบบห้องสมุดอัตโนมัติ แทนเครื่องเดิมที่ชำรุดพร้อมเครื่องสำรองไฟฟ้า (Leonics) ขนาด 1600 VA จำนวน 4 เครื่อง, Laser Printer ยี่ห้อ HP LaserJet M1536dnf 1 เครื่อง, เครื่องป้องกันไฟกระโชก (Oppo) 1 ตัว, Tablet ขนาด 7 นิ้ว (Asus) พร้อม memory card 64 GB จำนวน 12 เครื่องและจัดซื้อ memory card ขนาด 32 GB จำนวน 20 อันติดตั้งลงใน Tablet ขนาด 10 นิ้ว (Samsung)
พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์เฉพาะ CPU ยี่ห้อ ACER รุ่นT-26 (CPU 3.50 GHz., intel Core i3-4150 memory 4 GB. Harddisk 1 TB) 1 ตัว (ใช้แทนตัวเดิมที่ชำรุดบนเคาน์เตอร์หน้าห้อง Home Theatre), ซ่อมเก้าอี้พักคอย (4 ที่นั่ง/แถว) 4 ตัว และซ่อมพัดลมดูดอากาศ 2 ตัว ในห้อง Home Theatre
พ.ศ. 2559 ซ่อมพื้นริมหน้าต่างและหน้าเคาน์เตอร์บริเวณประตูทางเข้าห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ที่ชำรุดจากฝนสาด เปลี่ยนโช้คตัวสวิงประตูบานใหญ่และซ่อมผนังห้อง Home Theatre ภายในห้องสมุดสารสนเทศ
พ.ศ.2560 นายธาตรี สุภาระโยธิน ทำหน้าที่หัวหน้างานห้องสมุด แทนนายสุนทร นิศากร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป และได้มีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างห้องสมุด จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2 โดยมี ดร.สุคนธ์ สุคนธรัตนสุข รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เป็นผู้ลงนาม ซึ่งจะมีผลเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนาม คือ ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560 ถึงวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563
|